ในเดือนสิงหาคมนี้ มีวันสำคัญสำหรับคนไทยคือ “วันแม่แห่งชาติ” ที่ไม่ใช่มีเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น “วันแม่” หรือ “Mother’s Day” ยังมีในทุกประเทศทั่วโลก แม้ว่าในปีนี้เรายังต้องอยู่ในช่วงวิกฤตต้องกักตัวอยู่บ้าน สำหรับใครที่อยู่กับครอบครัวก็คงได้ไหว้แม่กอดแม่กันทุกวัน แต่สำหรับใครที่ต้องอยู่ห่างไกลแม่ไม่สามารถฉลองวันแม่กับแม่ได้ ก็ขอให้อดทนอีกนิดนึง
Muse Around The World ได้รวบรวมภาพวาดล้านความหมายของคำว่า "แม่" จากศิลปินชื่อดัง ที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ทั่วโลกมาให้ได้ชมกัน เพื่อซึมซับถึงความอบอุ่นของแม่จากการตีความของศิลปิน และสร้างสรรค์ผลงานที่สื่อถึงความรักของแม่ ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลย
Mother and Child, 1901 : Harvard Art Museums
เริ่มต้นที่ผลงานชิ้นแรกของศิลปินชื่อก้องโลก ปาโบล ปีกัสโซ (Pablo Picasso) จิตรกรเอกชาวสเปน ผู้ได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินที่มีพรสวรรค์ในการสร้างสรรค์มากที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 แม้ว่าผลงานของปีกัสโซจะเปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัย แต่ก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ในแบบของตัวเอง และผลงานที่แสดงให้เห็นถึงความรักและความอ่อนโยนของแม่ของปิกัสโซที่นำมาให้ชม ภาพนี้ชื่อว่า Mere et enfant (Mother and Child), 1901 ผลงานอันทรงคุณค่าในยุคแรกของปิกัสโซ Blue Period (ยุคสีน้ำเงิน) ในช่วงปี ค.ศ. 1901-1904
แรงบันดาลใจของผลงานชิ้นนี้เกิดจากในช่วงปลายฤดูร้อนปี 1901 ได้ไปเยี่ยมนักโทษหญิงในคุก Saint-Lozore เปรียบเสมือนฝันร้ายที่เขาต้องเจอทั้งสภาพแวดล้อมที่สกปรก ความยากจน และเศร้าสลดในดวงตาของบรรดานักโทษหญิงทั้งหลาย ภาพวาด Mother and Child ของปิกัสโซแสดงให้เห็นถึงการคุมขัง และการปรากฎตัวของเด็กน้อยในคุก ภาพของผู้หญิงที่สวมหมวกสีขาวสามารถระบุได้ว่าเธอคือนักโทษ และแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอ ใบหน้าที่สิ้นหวัง ปัจจุบันภาพวาดชิ้นนี้ถูกจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Harvard Art Museums
ภาพประกอบจาก : http://www.istitutoeuroarabo.it
Mother and Child (detail from The Three Ages of Woman) : Galleria Nazionale d’Arte Moderna
ภาพวาด Mother and Child นี้เป็นส่วนหนึ่งของ The Three Ages of Woman ผลงานชื่อดังของจิตรกรเอกชาวออสเตรีย กุสตาฟ คลิมท์ (Gustav Klimt) ที่จัดแสดงอยู่ที่ Galleria Nazionale d’Arte Moderna กรุงโรม ประเทศอิตาลี The Three Ages of Woman เป็นผลงานจิตรกรรมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ จากการประกวดนิทรรศการนานาชาติ (International Exhibition) ในปี 1911 ที่จัดขึ้นที่กรุงโรม
ภาพวาดต้นฉบับมีขนาด 180 ซม. × 180 ซม. (71 นิ้ว × 71 นิ้ว) ผลงานของคลิมท์ชิ้นนี้แฝงไปด้วยปรัชญาและแนวคิดที่ลึกซึ้ง ในภาพวาดเราจะเห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ในอ้อมกอดของหญิงสาว ในขณะที่ข้างๆ กันนั้นจะมีภาพของหญิงชรายืนก้มศีรษะลงมา ในภาพจะมีความหมายถึงผู้หญิง 3 วัย คือ “วัยเด็ก” ที่อยู่ในอ้อมแขนของหญิงสาว หรือแม่, “แม่” คือ วัยสาวหรือช่วงกลางของชีวิตที่ยังมีความงดงามสดใส และ “หญิงชรา” คือปัจฉิมวัย ผู้หญิงที่มีร่างกายซูบผอมเหี่ยวย่น คนแก่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกาลเวลา
ภาพประกอบจาก : https://en.wikipedia.org
Madonna Litta, 1490 : Hermitage Museum in St. Petersburg
Madonna Litta เป็นภาพเขียนสีน้ำมันที่เขียนโดย เลโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci) จิตรกรสมัยเรอเนซองส์ชาวอิตาลี พรรณนาถึงพระแม่มารีที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่และแสดงให้เห็นถึงความรักของมารดา เสื้อคลุมสีน้ำเงินของมารีเป็นสัญลักษณ์ของคริสตจักร และชุดสีแดงของเธอเป็นสัญลักษณ์ของความหลงใหลในพระคริสต์ Madonna Litta เป็นผลมาจากการสะท้อนความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับคำสัญญาอันเป็นสัญลักษณ์ของพระคริสต์ต่อมนุษยชาติรวมถึงภาพของกระบวนการให้อาหาร พระเจ้าทรงเป็นตัวเป็นตนในมนุษย์และถูกเลี้ยงด้วยน้ำนมแม่
ภาพวาดต้นฉบับของ Madonna Litta แท้จริงแล้วอยู่ในพิพิธภัณฑ์แอร์มิทาช ตั้งอยู่ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในประเทศรัสเซีย และมีขนาดเพียง 42 ซม. x 33 ซม. เท่านั้น ภาพเขียนชิ้นนี้ยังปรากฏในภาพยนตร์เรื่อง “รหัสลับดาวินชี” อีกด้วย
ภาพประกอบจาก : https://th.m.wikipedia.org
The Cradle, 1872 : Musée d'Orsay
ภาพวาดที่โด่งดังที่สุดของจิตรกรหญิงชาวฝรั่งเศส เบิร์ธ โมริโซ (Berthe Morisot) ที่วาดขึ้นที่กรุงปารีส ในปี 1872 “Le Berceau” หรือ "The Cradle” ที่มีแรงบันดาลใจมาจาก Edma น้องสาวของจิตรกร ภายในภาพเธอกำลังเฝ้ามองลูกสาวตัวน้อยที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ในเปลที่มีผ้าม่านบางๆ ล้อมรอบเปล ทั้งท่าทางและแววตาของ Edma ในภาพแสดงออกให้เห็นถึงความรัก แขนหนึ่งข้างที่วางไว้บนเปลแสดงให้เห็นถึงการปกป้องจากแม่ ภาพแรกของความเป็น “แม่” ที่ตราตรึงอยู่ในหัวใจของ เบิร์ธ โมริโซ จนกลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานของเธอต่อมาในอีกหลายๆ ชิ้น
เบิร์ธ โมริโซ ส่งผลงาน The Cradle เข้าร่วมในงานนิทรรศการ Impressionist exhibition ในปี 1874 ภาพวาดที่แทบไม่มีใครสังเกตเห็น นักวิจารณ์ไม่แม้แต่จะพูดถึงความงามของมัน หลังจากที่ไม่ประสบความสำเร็จ เบิร์ธ โมริโซ ก็ปลดภาพนั้นออกจากงานแสดง จนกระทั่ง The Cradle ได้ถูกซื้อไปโดยพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ในปี 1930 ปัจจุบันภาพนี้ได้ถูกจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ออร์แซ ประเทศฝรั่งเศส นั่นเอง
ภาพประกอบจาก : https://www.wikiart.org
Tahitian woman and two children, 1901 : Art Institute of Chicago
ผลงานชิ้นนี้เป็นของ ปอล โกแก็ง (Paul Gauguin) ศิลปินชาวฝรั่งเศสที่ทำผลงานสไตล์ Impressionism, Post-Impressionism กับผลงานภาพวาดชาว Tahiti และ ภาพวาดผู้หญิงชนเผ่าพื้นเมืองผิวเข้มๆ “Tahitian woman and two children” ในภาพวาดมีเด็กหนุ่มนั่งอยู่บนตักของผู้หญิง และเด็กชายในภาพ คือ เอมิล ลูกชายของพอล โกแก็ง กับปาฮูรา คนรักของเขาจากตาฮิติ ผู้หญิงที่อุ้มเด็กชายดูเหมือนจะแก่แล้วและอาจเป็นย่าของเด็กชาย ถัดจากหญิงชราจะมีเด็กหญิงคนหนึ่งที่อุ้มแมวไว้ในอ้อมแขนและยืนอยู่ข้างเก้าอี้ พอลใช้งานศิลปะชิ้นนี้เพื่อระลึกถึงพระแม่มารี ซึ่งเป็นภาพวาดคริสเตียนที่เก่าแก่และแพร่หลายที่สุด ภาพพระแม่มารีมีภาพพระมารดาของพระเยซูคริสต์พร้อมกับเด็กทารกเยซูและยอห์นผู้ให้รับบัพติสมา ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่ Art Institute of Chicago ประเทศสหรัฐอเมริกา
ภาพประกอบจาก : http://artsviewer.com/gauguin-539.html
Mother and Child (Cherries), 1865 : Blackburn Museum and Art Gallery
Mother and Child (Cherries) ภาพวาดอันแสนอ่อนช้อยงดงาม จัดแสดงอยู่ที่ Blackburn Museum and Art Gallery เป็นผลงานของจิตรกรเอกชาวอังกฤษนามว่า เฟรเดอริก เลห์ตัน (Frederic Leighton) ภาพแสดงให้เห็นถึงบรรยากาศอันแสนสบายของชาววิตอเรีย ภาพคุณแม่ที่สวยงามกับเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่กำลังป้อนลูกเชอร์รี่สีแดงสดให้กับแม่ที่กำลังเอนกายบนพรมโอเรียนเต็ลหลับตาพริ้มข้างๆ เธอ จึงเป็นที่มาของชื่อภาพ “Mother and Child (Cherries)” องค์ประกอบทุกอย่างภายในภาพวาดสวยงามล้วนแล้วแต่มีเสน่ห์อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นกลีบดอกไม้ไปจนถึงลูกเชอร์รี่สีแดงแวววาว เป็นที่น่าสังเกตว่าความรู้สึกและชีวิตของผู้คนส่วนใหญ่ในยุควิคตอเรียมักจะถูกบันทึกไว้ในผลงานศิลปะ รวมถึงภาพวาดอันแสนงดงามภาพนี้ของ เฟรเดอริก เลห์ตัน ด้วยเช่นกัน
ภาพประกอบจาก : https://www.wikiart.org/
Feeding the Young, 1850 : Louvre
ผลงานจากจิตรกรชื่อดังชาวฝรั่งเศส ฌ็อง-ฟร็องซัว มีแล (Jean-Francois Millet) หนึ่งในผู้ก่อตั้งตระกูลการเขียนบาร์บิซอง (Barbizon school) ที่นิยมนำเสนอเรื่องราวและวิถีชีวิตของผู้คนในชนบท ภาพชีวิตจริงของชาวนาฝรั่งเศสที่ยากไร้ สะท้อนให้เห็นถึงความยากลำบากในการดำรงชีวิต ถ้าแม้ในช่วงชีวิตที่แสนจะลำบากยากจน ต้องดิ้นรนเพื่อปากท้องของตัวเองและคนในครอบครัว Feeding the Young สะท้อนในมุมของความเป็นแม่แล้วยอม “อด” เพื่อให้ลูก “อิ่ม” ภาพของแม่ที่กำลังป้อนข้าวบรรดาลูกน้อยของเธอ แต่บรรยากาศภายในภาพกลับสะท้อนให้เห็นถึงชีวิตที่น่าสงสารของคนชนบทในเวลานั้น และเห็นถึงความรักของแม่ที่มีต่อลูก ซึ่งภาพนี้ได้ถูกจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ประเทศฝรั่งเศส
ภาพประกอบจาก : https://www.art-prints-on-demand.com
Motherhood, 1905 : National Museum in Krakow, Poland
สตานิสลาฟ วิสปิอันสกี (Stanisław Wyspiański) นักเขียนบทละครจิตรกรและกวีชาวโปแลนด์รวมถึงนักออกแบบตกแต่งภายในและเฟอร์นิเจอร์ ผลงาน “MotherHood” ของเขาถูกสร้างขึ้นในปี 1905 โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากการกำเนิดของลูกชายคนสุดท้อง โดยรูปนี้ได้ดัดแปลงมาจากภาพ Motherhood ที่เขาเคยวาดขึ้นในปี 1902 เป็นภาพภรรยาของเขากำลังให้นมลูกชายคนเล็ก นำมาคัดลอกโดยเปลี่ยนโทนสีเสื้อผ้า และเพิ่มภาพเหมือนของลูกสาวเฮเลนาลงไป 2 รูป ภาพนี้จัดแสดงอยู่ที่ National Museum in Krakow ประเทศโปแลนด์
ภาพประกอบจาก : https://arthur.io/art/stanislaw-wyspianski/motherhood
The Virgin and Child Embracing : National Gallery, London
ภาพวาดของพระแม่มารีและพระกุมารของพระคริสต์อาจเป็นภาพที่แสดงบ่อยที่สุด ในงานศิลปะของ Mother and Child งานศิลปะอันบริสุทธิ์ชิ้นนี้เป็นของ Giovanni Battista Salvi จิตรกรชาวอิตาลีในศตวรรษที่ 17 ที่เกิดที่ Sassoferrato เขาสร้างงานสักการะจำนวนมากในสไตล์ที่ชวนให้นึกถึงภาพวาดยุคเรอเนสซองส์ ในศตวรรษที่ 15 ภาพวาดชิ้นนี้แสดงให้เห็นว่า เด็กน้อยกำลังเอื้อมมือไปหาแม่อย่างอ่อนโยน นอกจากนี้สิ่งที่ชวนให้หลงใหลที่สุดของภาพวาดนี้ก็คือ เสื้อผ้าของพระแม่มารี และผ้าม่าน ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างประณีตและสวยงาม ภาพวาดชิ้นนี้จัดแสดงอยู่ที่ National Gallery กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ภาพประกอบจาก : https://www.dailyartmagazine.com/mothers-in-art/
Camille Monet and a Child in the Artist’s Garden in Argenteuil, ca. 1875, Museum of Fine Arts
โกลด มอแน (Camille Monet) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ศิลปะยุคอิมเพรสชั่นนิสม์ (Impressionism) หรือ ลัทธิประทับใจ มอแน สร้างภาพวาดที่สวยงามของภรรยาคนแรกของเขา คามิลล์ มอแน (Camille Monet) และลูกสาวของพวกเขา กำลังนั่งเล่นกันภายในสวนหลังบ้านในช่วงบ่ายที่มีแดดสดใสใน Argenteuil ใกล้กรุงปารีส ที่ทั้งคู่อาศัยอยู่ระหว่างปี 1872 และ 1877 ในช่วงเวลานี้ มอแน วาดภาพชีวิตครอบครัวอันแสนสุขหลายชิ้น และคามิลล์ภรรยาคนสวยก็ทำหน้าที่เป็นนางแบบของเขา
ภาพประกอบจาก : https://www.dailyartmagazine.com/mothers-in-art/
ขอบคุณข้อมูลจาก
-https://fabulousmasterpieces-blog.co.uk
-https://www.dailyartmagazine.com
วันที่แก้ไขล่าสุด : 2 กันยายน 2564